THE GREATEST GUIDE TO เศรษฐกิจโลก 1000 ปี

The Greatest Guide To เศรษฐกิจโลก 1000 ปี

The Greatest Guide To เศรษฐกิจโลก 1000 ปี

Blog Article

เป็นหนังสือที่อ่านง่าย กระชับ ไม่เอาตัวเลขมาโชว์มากมายให้ปวดหัว

การประชุมทบทวนแนวทางการดำเนินงานหลังการประเมินคุณภาพภายใน

นอกจากเนเธอแลน สเปนยังมีศัตรูอีกหนึ่งประเทศ คืออังกฤษ ซึ่งนอกจากจัดตั้งนิกายแองกลิคันแล้ว ยังมีโจรสลัดที่คอยดักปล้นกองเรือของสเปน

จากการทำสงครามที่ต่อเนื่องและยาวนานของอังกฤษ เพื่อหารายได้มาทดแทนกับค่าใช้จ่ายในการทำสงคราม สิ่งที่อังกฤษทำคือการเก็บภาษีจากชาวอาณานิคม จึงทำให้เรื่องมาถึงจุดแตกหัก เพราะการออกพระราชบัญญัติลดภาษีใบชาของอังกฤษ สร้างความไม่พอใจอย่างมากแก่พ่อค้าในเมืองบอสตัน จึงรวมตัวกันปลอมเป็นชาวอินเดียแดงลักลอบขึ้นเรือบรรทุกใบชาของอังกฤษแล้วทิ้งลงทะเลทั้งหมด เรียกเหตุการณ์สำคัญนี้ว่างานเลี้ยงน้ำชาที่บอสตัน

  ตั้งแต่มีมนุษย์เกิดมาบนโลกนี้มนุษย์ไม่เคยรู้มาก่อนว่า โลกทั้งหมดมีหน้าตาอย่างไร บางคนบอกว่าโลกแบน บางคนบอกว่าโลกกลม มีแผ่นดินเดียว แต่มีหลายมหาสมุทรล้อมรอบอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่มนุษย์จะค้นพบว่าขอบฟ้าบนโลกนี้มันมีที่สิ้นสุดตรงไหน สเปนซึ่งพัฒนาช้ากว่าโปรตุเกสในเรื่องการเดินเรือ หากจะเดินเรือไปทางใต้ของทวีปแอฟริกาก็เท่ากับตามหลังโปรตุเกส ในเวลานั้นมีนักเดินเรือหนุ่มชาวอิตาลีคนหนึ่ง มาเสนอแผนการเดินทางใหม่ไปยังทวีปเอเชียแด่กษัตริย์สเปน แทนที่จะเดินเรืออ้อมทวีปแอฟริกาแล้วหาทิศตะวันออกอย่างที่เคยเป็นมา เศรษฐกิจโลก 1000 ปี ใช่คนนี้เสนอให้เดินทางไปทางทิศตะวันตกข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ชายคนนี้มีนามว่า คริสโตเฟอร์โคลัมบัส

อุปกรณ์เครื่องเขียน เครื่องใช้สำนักงาน-อุปกรณ์การอ่าน

การจะสำรวจเส้นทางใหม่นี้จึต้องมีผู้สนับสนุนที่เพรียบพร้อม ในยุคนั้นก็คือรัฐชาติ ซึ่งมีอาณาเขตติกอยู่กับมหาสมุทรแอตแลนติก อันได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน และ โปรตุเกส

ฝากไว้เผื่อ บ.ก.ลงทุนแมนมาเห็น จะเอาไปพิจารณาปรับปรุง

นอกจากจีน มีการค้าดอกไม้ชนิดหนึ่งจากออตโตมัน คือดอกทิวลิป

สำหรับใครที่เป็นคอหนังสือประวัติศาสตร์ก็จะถูกใจ แต่ไม่ใช่แง่ที่ว่าได้เห็นอะไรใหม่ๆลึกๆ แต่เป็นความประทับใจที่เอาจุดต่างๆ เล็กๆเล็กๆ มาร้อยเรียงเป็นภาพใหญ่ได้ดีมากกว่า

ทุนนิยมเสรี นำโดย สหรัฐอเมริกา เป็นระบบเศรษฐกิจ ที่ส่วนใหญ่ก็มีระบบการเมืองแบบประชาธิปไตย

ทำไมอยู่ดีๆอิตาลีที่เจริญมากมายในยุคเรเนอซองค์ ก็เสื่อมสลาย?

และฟองสบู่ทางการเงินของฝรั่งเศส ถอยหลังและถดถอยอย่างร้ายแรง ผู้คนหวาดกลัวกับการใช้เงินกระดาษและเงินเฟ้อทำลายระบบเศรษฐกิจในทุกระดับ นับว่าวิกฤตเศรษฐกิจของฝรั่งเศสหนักหนาสาหัสกว่าอังกฤษมาก รัฐบาลไม่เหลือหนทางในการหาเงินอื่นอีกแล้วนอกจากการขึ้นภาษี ซึ่งผู้เสียภาษีของฝรั่งเศสก็คือชนชั้นที่สามซึ่งก็คือสามัญชนทั่วไป ในขณะที่ชนชั้นสูงยังคงใช้ชีวิตหรูหราในพระราชวังแวร์ซายน์ จนสุดท้ายประชาชนก็หมดความอดทน

สเปนพัฒนาช้ากว่าโปรตุเกสในเรื่องการเดินเรือ การเดินเส้นทางเดียวกับโปรตุเกส จึงเป็นการตามหลัง

Report this page